แบตเตอรี่รถยนต์ จำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ บริการส่งและเปลี่ยนให้ถึงที่ ทั่วกรุงเทพมหานคร สายด่วนโทร. 087-908-4528

    แบตเตอรี่รถยนต์ แบบเติมน้ำกลั่น หรือแบตเปียก ของ GS BATTERY เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เหมือนการปลูกต้นไม้ที่ต้องคอยเอาใจใส่รดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย และต้องคอยกำจัดวัชพืช และแมลงอยู่เสมอ ไม่งั้นต้นไม้ก็จะแห้งเฉาตายในที่สุด แบตเตอรี่รถยนต์ แบบเปียกก็เช่นเดียวกัน ถ้าขาดการดูแลน้ำกลั่น หรือทำความสะอาด ก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดอายุเร็วกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากเรื่องการบำรุงรักษาการดูแลตรวตเช็คน้ำกลั่นแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์แบบเติมน้ำกลั่น ยังเป็นแบตเตอรี่ที่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมออีกด้วย แต่จะไม่เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้น้อย เพราะรถยนต์ที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ได้รับกระแสไฟและจ่ายกระแสไฟผ่านแผ่นตะกั่ว ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไม่เกิดสภาวะซัลเฟชั่น ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดสภาพช้ากว่าปกติ ต่างกับรถยนต์ที่ใช้น้อย การที่รถยนต์ใช้งานน้อย ถึงน้อยมาก เช่น ใช้รถยนต์วันล่ะ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียกนี้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เพราะการที่รถยนต์ใช้งานจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียกนี้เกิดสภวะซัลเฟชั่นขึ้นในแผ่นตะกั่ว และจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดความสามารถในการจ่ายกระแสไฟให้เพียงพอต่อการสตาร์ทรถยนต์

    ก่อนที่เราจะเริ่มทำการบำรุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ของเรานั้น เราต้องทราบห้วงเวลาในการเช็คน้ำกลั่น ประเภทของน้ำกลั่นที่ใช้ได้ หรือแม้กระทั่งวิธีทำความสะอาดแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้อง รวมไปถึงวิธีใช้งานที่ถูกต้องด้วย เพราะการบำรุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก ไม่ใช่เพียงแค่เติมน้ำกลั่นเพียงอย่างเดียว.

    โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดเติมน้ำกลั่น จะมีอัตราการระเหย หรือปฎิกิริยาเคมีภายในแบตเตอรี่รุนแรงกว่าแบตเตอรี่ประเภท MF หรือ SMF อยู่แล้ว และยิ่งรถยนต์มีการใช้งานวันล่ะหลายร้อยกิโลเมตรต่อวัน ก็ยิ่งส่งผลให้การสูญน้ำในแบตเตอรี่ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการเติมน้ำกลั่นของแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดนี้ ก็จะแปรผันไปตามการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปของการดูแลการเติมน้ำกลั่นจะอยู่ราวๆ 1 ถึง 2 เดือนต่อครั้ง โดยถ้ารถยนต์ที่มีการวิ่งเยอะ เช่นรถรับจ้าง รถแท็กซี่ หรือรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ทั้งหลาย ก็จะต้องคอยเช็คคอยเติมถี่ขึ้นกว่ารถทั่วไป และสิ่งสำคัญอีกเรื่อง ที่จะต้องจำไว้เสมอ คือ แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก อายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ก็จะกินน้ำกลั่นมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ( เฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์เท่านั้น ).

    ในส่วนของน้ำกลั่น มักจะมีองค์ความรู้แปลกๆใหม่ๆให้ได้ยินทั้งจากการพูดปากต่อปาก หรือไปพบเจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมา ที่เคยได้ยินกันบ่อย ก็จะเป็นการใช้โซดาเติมแบตเตอรี่แทนน้ำกลั่นบ้าง หรือใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำกลั่นบ้าง รวมถึงน้ำกลั่นสีชมพู หรือสีต่างๆที่อ้างถึงสรรพคุณไว้มากมาย ซึ่งจากข้อมูลดั่งกล่าว ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ GS แล้วว่า ห้ามใช้โดยเด็จขาด และหากแบตเตอรี่รถยนต์เกิดปัญหา อาจไม่ได้รับการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต เพราะฉะนั้นคิดให้ดีก่อนจะเติมสิ่งแปลกปลอมลงไปในแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ น้ำกลั่นที่ทางบีบีแบตเตอรี่ หรือโรงงานผู้ผลิตแนะนำ คือน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ที่ผลิตมาเพื่อใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์เท่านั้น.

    การทำความสะอาดแบตเตอรี่รถยนต์ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องดูแล แต่มักไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร แบตเตอรี่แบบเปียก เมื่อมีการใช้งานไปสักระยะ เราควรตรวจเช็คขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบเกลือเกาะอยู่ที่ขั้วแบตทั้งสองข้างหรือปล่าว ถ้ามีก็ให้ทำความสะอาด ด้วยการราดขั้วแบตทั้งสองข้างด้วยน้ำร้อน หลังจากนั้นก็เช็ดให้แห้งและทาด้วยจาระบี ส่วนฝาปิดแบตเตอรี่ก็ต้องตรวจเช็ครูระบายแก๊ส ว่ามีการอุดตันหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าแก๊สไม่ถูกระบายออกไป มันเหมือนกับการต้มน้ำ ที่ต้องมีรูระบายไอหรือแรงดัน เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้

    "คว่ำหม้อ" ศัพท์ช่าง และคนทั่วไปใช้เรียกกันเวลาจะนำแบตเตอรี่มาชาร์จที่ร้าน วัฒนธรรมที่มีมาช้านาน วิธีการก็คือ น้ำแบตเตอรี่รถยนต์มาเทน้ำออกให้หมด แล้วเติมน้ำกรดเข้าไปใหม่ ตามด้วยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ เหตุผลที่ต้องคว่ำหม้อแบต เพราะร้านแบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ลูกนั้นให้มีค่า ถพ. 1.260 ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่ลูกนั้นไฟหมดหม้อ ช่างทั่วไปก็เลยเกิดไอเดีย เทกรดเก่าออก แล้วเติมกรดใหม่เข้าไป ค่าถพ. ก็จะได้ 1.260 เป๊ะ!!! แต่คุณรู้หรือไม่ วิธีการดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดอย่างมหันต์ และจะไม่ได้รับการรับประกันจากทางโรงงาน.

    ข้อควรจำอีกหนึ่งอย่าง คือ แบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก หรือแบตเตอรี่แบบน้ำกลั่นทุกยี่ห้อ เมื่อไม่ได้มีการใช้งาน ควรนำมาอัดไปอย่างน้อย 20 ถึง 30 วันต่อครั้ง นี้คือการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง อย่าปล่อยให้ไปหมดแล้วถึงนำไปชาร์จไป เพราะคุณจะชาร์จไฟไม่เข้า เนื่องจากการจับตัวของเกลือกำมะถัน และถ้าเครื่องชาร์จคุณไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอก็ไม่สามารถอัดไปเข้าไปในแบตเตอรี่ได้ แล้วอย่าหลงเข้าใจผิดว่าการคว่ำหม้อ คือวิธีการฟื้นฟูแบตเตอรี่ที่ถูกต้อง.

    การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์แบบเปียก ไม่ยากอย่างที่คิด
                         มีปัญหาโทร 087-908-4528